การป้องกันการทุจริตและการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์ส่วนรวม

- จำนวนผู้ทำแบบทดสอบ 908 คน
- ผ่านทั้งหมด 188 คน
- คิดเป็น 20.70%

แบบทดสอบ การป้องกันการทุจริตและการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์ส่วนรวม

1) ตำแหน่งใดที่ไม่ต้องห้ามดำเนินกิจการตามความในมาตรา 126 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ก. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
ข. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
ค. นายกเมืองพัทยา
ง. สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 126 ห้ามบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพนักงานของรัฐดำเนินกิจการที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม

ก. คู่สมรส
ข. บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ค. บุตรที่บรรลุนิติภาวะ
ง. ถูกทั้ง ก. และ ข.

3) ข้อใดคือความหมายของคู่สมรสตามนัยมาตรา 126 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ก. ผู้ที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย แต่ได้แยกกันอยู่
ข. ผู้ที่ผ่านพิธีผูกข้อมือตามประเพณี แต่มิได้จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
ค. ผู้ที่หย่าขาดจากกันตามกฎหมาย แต่ยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ง. ถูกทุกข้อ

4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 127 ห้ามเจ้าพนักงานของรัฐดำเนินการตามมาตรา 126 (4) หลังพ้นจากตำแหน่งภายในกี่ปี

ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. ไม่จำกัดจำนวนปี

5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 127 ห้ามบุคคลใดดำเนินการตามมาตรา 126 (4)

ก. คู่สมรสของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ข. บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
ค. ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ง. ไม่มีข้อใดถูก

6) มาตรา 126 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ยกเว้นให้เจ้าพนักงานของรัฐสามารถถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดได้ไม่เกินจำนวนเท่าใด

ก. ไม่จำกัดจำนวนหุ้น
ข. ร้อยละ 5
ค. ร้อยละ 10
ง. ร้อยละ 15

7) การดำเนินกิจการในข้อใดต่อไปนี้ที่ต้องห้ามกระทำการตามมาตรา 126 และมาตรา 127 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ก. นางขาว คู่สมรสของนายดำ ได้เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะที่ปรึกษาของบริษัทยา ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังจากที่นายดำ ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ถึง 1 เดือน
ข. นางสาวส้ม ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับนายแดง ได้เป็นผู้ถือประทานบัตรเกี่ยวกับเหมืองแร่ ต่อมานายแดง ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีอำนาจกำกับ ดูแล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ที่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตออกประทานบัตรเกี่ยวกับเหมืองแร่
ค. นายเงิน เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก. แล้วนางทอง ภรรยาของนายเงิน ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบล ข. ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกัน โดยที่นายเงิน รับทราบและยินยอมให้นางทอง กระทำการดังกล่าว
ง. นายเขียว รองนายกเทศมนตรีตำบล ก. ได้เป็นหุ้นส่วนจำนวนร้อยละ 3 ของจำนวนทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัด A. ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัด A. ได้เข้ามาเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบล ก.

8) บุคคลใดที่ต้องห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดตามความในมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

ก. ลูกจ้างของส่วนราชการ
ข. อนุกรรมการของส่วนราชการ
ค. ข้าราชการ
ง. ถูกทุกข้อ

9) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ห้ามเจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหลังพ้นจากการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ หรือไม่

ก. ไม่ห้าม สามารถรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดได้
ข. ห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหลังพ้นจากการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐยังไม่ถึง 2 ปี
ค. ห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหลังพ้นจากการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐยังไม่ถึง 3 ปี
ง. ห้ามรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดหลังพ้นจากการเป็นเจ้าพนักงานของรัฐยังไม่ถึง 4 ปี

10) ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์อื่นใดตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543

ก. การรับบริการ
ข. การรับความบันเทิง
ค. การรับการฝึกอบรม
ง. ไม่มีข้อใดถูก

11) การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาจากบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ญาติตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 กำหนดมูลค่าของทรัพย์สินที่สามารถรับไว้ได้ไม่เกินเท่าใด

ก. 3,000 บาท
ข. 5,000 บาท
ค. 30,000 บาท
ง. 100,000 บาท

12) การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากญาติซึ่งให้โดยเสน่หาตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 “ญาติ” หมายถึง บุคคลในข้อใดต่อไปนี้

ก. ผู้บุพการี
ข. คู่สมรส
ค. ผู้รับบุตรบุญธรรม
ง. ถูกทุกข้อ

13) เจ้าพนักงานของรัฐจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดซึ่งการให้นั้นเป็นการให้ในลักษณะให้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่

ก. รับได้ เพราะเป็นการรับทรัพย์สินโดยธรรมจรรยา
ข. รับไม่ได้ เพราะไม่ใช่การรับทรัพย์สินโดยธรรมจรรยา
ค. รับไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายที่อนุญาตให้เจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สินในกรณีนี้
ง. ถูกทั้ง ข. และ ค.

14) หากเจ้าพนักงานของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 เจ้าพนักงานของรัฐจะต้องดำเนินการเช่นใด

ก. รายงานต่อผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการโดยทันทีที่สามารถกระทำได้
ข. รายงานต่อผู้บังคับบัญชาซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการหลังวันที่ได้รับสิ่งนั้นไว้ 1 ปี
ค. รายงานต่อหัวหน้ากลุ่มงานหรือหัวหน้าฝ่ายภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับสิ่งนั้นไว้
ง. ไม่มีข้อใดถูก

15) บทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 126 , มาตรา 127 และมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ข้อใดถูกต้อง

ก. ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 126 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 127 จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 128 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ถูกทุกข้อ

ให้ท่านพิจารณาพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 หรือไม่ จากนั้นพิจารณาว่าพฤติการณ์ดังกล่าวดำเนินการถูกต้องหรือไม่

16) นาย ก ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ รับนาฬิกาแขวนมูลค่า 4,000 บาท จากลุงเนื่องในวันขึ้นบ้านใหม่ และไม่รายงานผู้บังคับบัญชา